Search Results
พบ 61 ผลลัพธ์เมื่อไม่ระบุค่าการค้นหา
- “น้องหมีสีรุ้ง” จุดเช็คอินใหม่ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต
แต่งตัวเสร็จแล้ว...น้องหมีสีรุ้ง เฟซบุ๊กเพจเทศบาลนครภูเก็ตลงภาพ น่ารักสดใสต้อนรับ Pride Month กับ “น้องหมีสีรุ้ง” ตัวใหญ่ที่ตั้งเด่นสะดุดตา เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินสุดชิคแห่งใหม่ย่านเมืองเก่าภูเก็ตในตอนนี้เลยทีเดียว คอสตูมใหม่สีสันสดใส รับเดือน Pride month เนรมิตให้เมืองภูเก็ตเป็นสีรุ้ง โดยมีน้องหมี คอยเปิดพื้นที่ต้อนรับเทศกาล “𝗗𝗶𝘀𝗰𝗼𝘃𝗲𝗿 𝗣𝗵𝘂𝗸𝗲𝘁 𝗣𝗿𝗶𝗱𝗲 𝟮𝟬𝟮𝟰 @𝗢𝗹𝗱 𝗧𝗼𝘄𝗻” พิกัด สี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ ภูเก็ต ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย กระตุ้นเศรษฐกิจในเขตเมืองตลอดทั้งปี เทศบาลนครภูเก็ตจึงร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชน ในจังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดงาน Discover Phuket Pride 2024 @ Old Town ขึ้น ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ในระหว่างเวลา 17.00-19.00 น. นอกจากนี้ ตามจุดท่องเที่ยวริมหาดก็ประดับไปด้วยธงสีรุ้ง พร้อมยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น แอดมินเห็นแล้วอดใจไม่ไหว รีบมาแนะนำจุดเช็คอิน 6 จุด ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ Cr : ภาพจากเทศบาลนครภูเก็ต 1. น้องหมีสีรุ้ง สุดสดใสน่ารัก บริเวณสี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ 2. โค้งสายรุ้ง จุดถ่ายภาพเก๋ๆ รอบวงเวียนสุรินทร์ (หอนาฬิกา) 3. สาวน้อยสายรุ้ง สุดฟรุ้งฟริ้งที่วงเวียนน้ำพุ 4. “Rainbow Crosswalk” หรือ ทางม้าลายสีรุ้ง สีสดใสอยู่ทั้งสี่ด้านของแยกธนาคารชาร์เตอร์ 5. น้องกุ้งมังกร 7 สีแห่งทะเลภูเก็ต จุดถ่ายคิ้วท์ๆ ตรงร้านตู้กับข้าว Cr : เฟซบุ๊คร้านตู้กับข้าว 6. ทางเชื่อมสายรุ้ง @Central Floresta ณ จุดนี้หากใครมีโอกาสมาเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตในช่วงนี้ แล้วก็อย่าลืมไปแวะชมกระเป๋าเดินทางของเรา แบรนด์คาจิโอนี่ ที่ชั้น 3 ด้วยนะ พนักงานพร้อมต้อนรับและแนะนำสินค้าดีๆที่เหมาะสมกับเพื่อนๆเผื่อได้ใช้ใส่สัมภาระกลับบ้านกัน
- 10 ไอเทมเด็ดแนะนำสำหรับสายเที่ยวในช่วงหน้าฝน หน้าฝนปีนี้ฉันจะต้องไม่เละ!
ซัมเมอร์กำลังจะหมดไปแทนที่ด้วยสายฝนที่เริ่มเข้ามา สำหรับสายเที่ยวอย่างเรานั้น สายฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยต่อการเดินทาง แถมยังชื่นชอบในบรรยากาศอันเขียวขจีของหน้าฝนเสียด้วยซ้ำ แต่ในช่วงฝนตก ก็อาจจะทำให้การเดินทางลำบากมากขึ้น สัมภาระทั้งเสื้อผ้า รองเท้า หมวก ของใช้จุกจิก ก็อาจจะเปียกชื้นได้จากกระเป๋าที่เราใช้งาน เพราะกระเป๋าไม่กันน้ำ เราขอแนะนำตัวช่วยสำหรับการเดินทางในช่วงหน้าฝน 10 ไอเทมเด็ด สำหรับการเดินทางในฤดูนี้ 1. Echolac : Celestra Frame กระเป๋าเดินทางแอคโคแล๊ค กระเป๋าเดินทางแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น รุ่นนี้สวยหรู ดูเนี๊ยบไปทุกองศา สวยแม้กระทั่งหมุดที่ยิงรอบตัวกระเป๋า ตัวกระเป๋าผลิตจากโพลีคาร์เนต (PC) คุณภาพสูงจากเยอรมัน ประกบด้วยเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แถมยังมีมุมกันกระแทกเพิ่มเข้าไปอีก แล้วที่ชนะขาดลอยคือ ตัวล๊อกรหัส 2 จุดทั้งซ้ายขวา ด้านละ 3 หลัก เท่ากับกระเป๋าใช้รหัส 6 หลักในการล๊อกรหัสสัมภาระ จะหาที่ไหนปลอดภัยได้มากกว่านี้อีก ราคาเริ่มต้น 6,995 - 8,995.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 2. Echolac : Fusion แบรนด์ดีจากญี่ปุ่นมาเข้าไทยทั้งที แนะนำแค่รุ่นเดียวไม่ได้ ยังมีรุ่นฟิวชั่นอีกรุ่นที่อยากนำเสนอ รุ่นนี้ตัวกระเป๋าผลิตจากโพลีพร๊อพโพลีน (PP) เพิ่มความปลอดภัยด้วยตัวล๊อก 3 จุดรอบกระเป๋า กันน้ำ กันขโมย กันแรงกระแทก แต่ไม่กันกระแทกใจเลย เพราะมีให้เลือก 6 สีละลานตาไปหมด สีนั้นก็ดี สีนี้ก็สวย จะสีแนวคลาสสิคขรึมๆ แนวพาสเทลหวานๆ หรืออยากจะจี๊ดจ๊าดก็มี ทางนี้คือเลือกไม่ถูกแล้ว ราคาเริ่มต้น 5,595 - 6,997.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 3. Mendoza : Panzer แบรนด์ยอดฮิตจากฮ่องกง ที่กำลังฟีเวอร์ในหมู่ดารา เซเลปเกาหลี แบรนด์ “เมนโดซา” มาพร้อมกับสไตล์ที่แตกต่าง กระเป๋ารุ่นแพนเซอร์กับดีไซด์ล้ำๆ เหมือนถังน้ำมัน เฟรมอลูมิเนียมอย่างหนาเห็นแต่ไกลยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง ทนทาน เปิดด้านในเป็นผ้าซับลายพรางเก๋ๆ มีช่องสำหรับไม้แขวนเสื้อ ช่องตาข่ายใส่ของเป็นสัดส่วน ครบจนไม่รู้แล้วว่าจะต้องการอะไรอีก เลือกรุ่นนี้เลย ถ้าอยากบอกความเป็นตัวเองให้โลกรู้แบบตะโกน ราคาเริ่มต้น 6,500 - 8,500.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 4. Caggioni : Marco มาที่แบรนด์ไทยแท้ๆแต่กำเนิด แบรนด์นี้อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 67 ปี เรียกได้ว่า รุ่นปู่ รุ่นย่ายังรู้จัก กระเป๋าเดินทางรุ่นมาโคร รุ่นนี้ยอดฮิตติดลมบน ด้วยสีที่หลากหลายแมตท์สีด้วยเส้นคาดที่เข้ากันอย่างลงตัว สายท่องเที่ยวเก็บภาพแทบจะเอากระเป๋าเป็นพร๊อพถ่ายภาพได้เลย รุ่นนี้มีตัวล๊อก 3 จุดรอบตัวกระเป๋า ผ้าซับในถอดออกได้ ไม่อยากใช้ก็ถอด สกปรกก็ซัก ส่วนเรื่องกันน้ำไม่ต้องห่วงลุยไปเลย กระเป๋าโครงรุ่นนี้บอกเลยว่า สวยเก๋ น่ารัก ลงตัวเป็นที่สุด ราคาเริ่มต้น 2,995 - 3,995.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 5. Caggioni : Joy แบรนด์ไทยยอดฮิตอีกสักรุ่น รุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นไอเทมลับ หายากสักหน่อยเพราะไม่มีขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป จำหน่ายเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น ทั้ง ช้อปปี้ , ลาซาด้า , เซ็นทรัลออนไลน์ หรือ ไลน์มายช้อป ผลิตมากี่รอบๆ ก็หมดตลอด หมดไวเหลือเกินโดยเฉพาะสีนู๊ด สีละมุนอก ละมุนใจ เรียบหรูดูดี๊ ดีย์ รุ่นนี้ก็มีตัวล๊อก 3 จุดรอบกระเป๋า สีเอิร์ธโทน ซื้อใบเดียวใช้ได้ทั้งบ้าน ที่สำคัญราคาย่อมเยา ราคาน่ารัก คุณแม่บ้านสบายกระเป๋า มีเงินเหลือไปเที่ยวต่อได้อีก มันถูกใจตรงนี้แหละ ราคาเริ่มต้น 2,295 - 3,295.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 6. Echolac : Purist Collection กลับมาที่แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นอีกสักรอบ นอกจากกระเป๋าเดินทางแล้ว ยังมีกระเป๋าเป้หลังคุณภาพดีมาแนะนำ สีสันสดใส มีช่องแยกใส่แล็บท๊อปเป็นสัดส่วน และใช่แล้วใส่แล็บท๊อปได้แต่กระเป๋ากันน้ำ เริ่ดไหมล่ะ ในประเทศไทยตอนนี้มีให้เลือก 2 ขนาด M (Laptop 13”) และ L (Laptop 15”) ใช้เป็นกระเป๋าประจำวันก็ดี จะใช้ไปเที่ยวก็เก๋ รุ่นนี้สวย คลาสสิค ไม่มีคำว่าตกยุคแน่นอน ราคาเริ่มต้น 3,750 - 3,950.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 7. Echolac : Blocco แอคโคแล็คบล๊อคโค กระเป๋ารุ่นนี้มาใหม่ล่าสุด เห็นว่าเพิ่งจะมีจำหน่ายในไทย สะพายแล้วดูเป็นสาวญี่ปุ่นขึ้นมาเลย เรียกได้ว่าสะพายปุ๊ป เจแปนปั๊บ นอกจากจะใช้เป็นเป้หลังแล้ว ยังสามารถสะพายข้างได้ด้วยใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ รุ่นนี้มีช่องแยกเป็นสัดส่วน สำหรับใส่แล็บท๊อป ด้านหน้ามีช่องแยก 3 ช่อง ซ้าย/ขวา/ล่าง เปิดใช้สะดวกเหมาะกับสาวๆ ข้าวของจุกจิก ใส่โทรศัพท์ ใส่กุญแจ ใส่แปรง ใส่ลิป หยิบง่าย ราคาเริ่มต้น 3,750 - 3,950.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 8. Caterpillar : Sixty Collection หันมาเอาใจหนุ่มๆสายลุยกันบ้าง น้อยคนที่จะไม่รู้จักแบรนด์นี้ แบรนด์ชั้นนำจากอเมริกาอายุกว่า 100 ปี “แคทเธอร์พิลลาร์” วางใจได้เรื่องความดีไซน์ ความอึด ความทน กระเป๋าคอลเลคชั่นซิกตี้ มีความย้อนยุคแบบร่วมสมัย ด้วยสายคาดสกรีนชื่อแบรนด์สีดำตัดตัวอักษรเหลืองเป็นซิกเนเจอร์ของคอลเลคชั่นนี้ คอลเลคชั่นซิกตี้มีจุดเด่นที่ใช้วัสดุ PU และผ้าริปสต๊อปกันน้ำเป็นหลัก ผลิตมาหลายแบบให้เลือก ทั้ง กระเป๋าเป้หลัง ใส่แล็บท๊อปได้ , กระเป๋าสะพายขวาง ก็ไม่ธรรมดาใหญ่พอใส่แท๊ปเลตได้เลย, กระเป๋าสะพายข้าง , กระเป๋าคาดอก/คาดเอว ใบใหญ่หรือขนาดย่อมก็มี แล้วรุ่นนี้กันน้ำ กันฝน ทนทุกสถานการณ์ ราคาเริ่มต้น 890.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 9. Caterpillar : William Collection วิลเลียม ว๊าวว!! ชื่อมาก็รู้สึกแล้วว่าเท่ห์แน่ๆ คอลเลคชั่นนี้ การเปิด-ปิดกระเป๋าจะคล้ายๆถุงทะเล ด้านบนจะใช้วิธีการม้วนปลายกระเป๋าเข้าเพื่อเก็บสัมภาระ ข้อดีก็คือจะของมากของน้อย ก็ปรับขนาดได้ดังใจเลย ของน้อยๆก็ม้วนเข้า ของมากหน่อยก็คลายออก กระเป๋าจะดูไม่เทอะทะ เสียทรง ตัวกระเป๋าเป็นผ้าริบสตอปกันน้ำ สีสันสดใส รุ่นนี้เท่าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมี 2 ขนาด ขนาด L จะเป็นรูปทรงเป้หลัง เหมาะกับสายลุยป่าหน้าฝน ผจญภัย ส่วนขนาด S ใช้เป็นกระเป๋าสำรองได้ ม้วนเก็บเป็นกระเป๋าคาดเอว แต่สามารถขยายออกเป็นเป้หลังน้ำหนักเบาสบาย ใช้งานง่ายเลย ราคาเริ่มต้น 1,860.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 10. Caterpillar : Urban Mountaineer Collection แค่ชื่อคอลเลคชั่นก็บอกแล้วว่ากระเป๋าสำหรับสายลุยแท้ๆ เหมาะกับสายลุยป่า ฝ่าฝน จักรยานเสือภูเขาเพราะคอลเลคชั่นนี้จะเน้นไปที่ตัวผ้าริบสตอปกันน้ำ น้ำหนักเบา ออกแบบและพิถีพิถันในการเลือกวัสดุเพื่อให้คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับเพิ่มฟังก์ชั่นด้วยช่องสำหรับหนีบไฟสะท้อน ตัวสายคาดกระเป๋ามีเส้นสะท้อนแสง ว่าง่ายๆคือเน้นความปลอดภัยของนักเดินทางเป็นหลัก คุณภาพเน้นๆ พร้อมออกไปลุยทุกสถานการณ์ ลุยไปทุกเส้นทางอย่างเต็มพิกัด เท่าที่เห็นตอนนี้ในไทย มีให้เลือกหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว ทั้งเป้หลังแบคแพค กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าคาดเอว ราคาเริ่มต้น 1,860.- สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ เลือกกระเป๋าใส่สัมภาระ ให้เหมาะกับการใช้งาน เท่านี้ก็ลุยฝนได้แบบสบายใจหายห่วง แต่การเดินทางทุกครั้ง อย่าลืมเผื่อพื้นที่ส่วนน้อยให้กับยาประจำตัวด้วย รักษาสุขภาพกันด้วยนะ ดูแลสุขภาพตนเอง และคนที่คุณรักให้ปลอดภัย
- Visa on Arrival แตกต่างจาก Visa Free อย่างไร
Visa Free คือการที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า นักท่องเที่ยวจากไทยสามารถถือหนังสือเดินทาง (Passport) เข้าไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางได้เลย ซึ่งมีระยะเวลาให้เที่ยวได้ไม่เกินกำหนดที่ประเทศนั้น ๆ รองรับ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 36 ประเทศ และดินแดน ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถไปเที่ยวได้เลยโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่าก่อนการเดินทาง Visa on Arrival (VOA) คือ การตรวจลงตราเมื่อต้องการเข้าประเทศ ผู้ถือหนังสือเดินทางสามารถขอได้ ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ถือว่าเป็นวีซ่าประเภทหนึ่ง เพียงแต่ต้องขอก่อนเข้าประเทศจุดหมายปลายทาง ใช้เวลาเพียง 20-25 นาทีเท่านั้น และพำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 15 วัน จึงมีรหัสวีซ่าว่า TR15 ซึ่งอนุญาตสำหรับคนต่างชาติในบางสัญชาติเท่านั้นตามที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้กำหนดไว้ ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเราสามารถที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับยังประเทศนั้น ๆ แล้วค่อยไปทำวีซ่าเข้าเมืองที่สนามบินของประเทศนั้น ๆ ได้เลย จำไว้ว่า Visa Free คือไม่ต้องขอวีซ่า ลงเครื่องบินปุ๊บเดินไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย แต่ Visa on Arrival จะต้องขอก่อนที่จะไปยังจุดตรวจคนเข้าเมืองเสมอ แต่ก่อนจะออกเดินทางมาแนะนำให้เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการยื่นเรื่องและเตรียมค่าธรรมเนียมให้พร้อม ทั้งนี้การเข้าประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า และต้องขอ Visa on Arrival นักท่องเที่ยวจะได้เข้าประเทศจุดหมายปลายทางหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งสิ้น หากตรวจสอบพบว่ามีเอกสารการเดินทางครบถ้วน และมีจุดประสงค์เข้าประเทศตรงตามที่ได้ยื่นขอวีซ่าไว้ ก็จะได้รับการพิจารณาให้เข้าประเทศได้ ประเทศที่ขอ Visa on Arrival ได้มีอะไรบ้าง สำหรับประเทศปลายทางที่สามารถขอ Visa on Arrival ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้น ปัจจุบันมีอยู่ 11 ประเทศด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเทศก็อาจมีระยะเวลาในการเที่ยวหรือพำนัก ตลอดจนค่าธรรมเนียมในการทำ Visa on Arrival ที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลที่อัปเดตใหม่ก่อนเดินทางไปเที่ยวด้วยทุกครั้ง หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นการอนุญาตของประเทศปลายทางซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทางที่สถานทูตของประเทศปลายทางที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือที่กระทรวงการต่างประเทศดังนี้ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ 02 643 5128 กรมยุโรป 02 643 5138 กรมเอเชียตะวันออก 02 643 5194 กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 02 643 5062
- TSA Lock คืออะไร? ทำไมกระเป๋าเดินทางไม่มีกุญแจให้?
TSA LOCK คืออะไร? TSA ย่อมาจาก Transportation Security Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นมาตรฐานสากลที่มีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของประเทศนั้นๆ สัญลักษณ์ TSA จะติดไว้บริเวณกุญแจล็อกกระเป๋าเดินทาง (จุดสังเกต คือจะมีสัญลักษณ์สีแดงทรงข้าวหลามตัด หรือภาพคบเพลิง และเขียนคำว่า TSA ) ตามมาตรฐานสากลจะมีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของประเทศนั้นๆ ไว้เพื่อคัดกรองสิ่งของข้ามแดน ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ ในการตรวจและยึดสิ่งของต้องห้ามเฉพาะ เช่น ยาเสพติด สิ่งของต้องห้าม เป็นต้น เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย หากไม่มีสิ่งต้องห้าม ก็จะส่งคืนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในกระเป๋าของเราให้อยู่ในสภาพเดิม เนื่องจากบางครั้งเราเดินทางไปยังประเทศที่เข้มงวด อาจเผลอทำผิดกฎโดยไม่ได้เจตนา โดยไม่ทราบกฎหรือข้อห้าม บางประเทศเข้มงวดมากกับการนำสิ่งของต่างๆเข้ามาในประเทศ เช่น พืช ผัก ผลไม้ อาหารแห้ง เป็นต้น ทำไมกระเป๋าเดินทางต้องมี TSA Lock การเดินทางไปต่างประเทศในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศที่มีการใช้มาตรฐาน TSA Lock อยู่ บางครั้งเราอาจโดนตรวจสอบสัมภาระในกระเป๋า และเจ้าหน้าที่จะเปิดกระเป๋าโดยใช้กุญแจเฉพาะ ที่มีมาตรฐาน TSA หากกระเป๋าของเราไม่มีมาตรฐานที่ว่ามา เจ้าหน้าที่จะใช้ทุกวิธีที่จะเปิดกระเป๋าของคุณ เช่น การตัดกุญแจ ทำลายตัวล๊อก การงัดกระเป๋า เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้กระเป๋าของคุณเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นกระเป๋าที่มี TSA Lock ก็จะปลอดภัยหายห่วง กระเป๋าจะปลอดภัยหรือไม่? เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับสิทธิ์เท่านั้น จึงจะสามารถเปิดกระเป๋าของคุณได้ เช่น เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะเปิดได้ในกรณีที่สแกนแล้วภายในกระเป๋ามีวัตถุต้องสงสัย เข้าข่ายพกยาเสพติด หรืออุปกรณ์อันตรายเท่านั้น ซึ่งกระเป๋าจะอยู่อย่างปลอดภัยหากไม่มีสิ่งต้องสงสัยดังกล่าว และไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายต่อของในกระเป๋า ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกระเป๋าที่มี TSA Lock ถึงมีแต่ระบบล็อคแต่ไม่มีกุญแจมาให้ ระบบนี้ใช้กันที่ไหนบ้าง จากข้อมูล ตอนนี้ระบบ TSA Lock ถูกนำมาใช้ในประมาณ 600 สนามบิน จาก 13 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฟินแลนด์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับใครก็ตามที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ หรือนานๆ ครั้งไป จึงไม่ควรมองข้ามระบบ TSA Lock เพราะมันมีประโยชน์มากทีเดียว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสัมภาระของคุณเอง
- 36 ประเทศ คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า 2024
หลังข้อตกลงความร่วมมือของรัฐบาลไทยและจีน “ ฟรีวีซ่าไทย-จีน ” เริ่มต้นใช้กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา นอกจากนักท่องเที่ยวจีนจะสามารถเข้ามาเมืองไทยได้โดยไม่ขอวีซ่าแล้ว นักเดินทางไทยยังสามารถเดินไปจีนได้แบบไร้ข้อจำกัดเช่นเดียวกัน Free Visa เป็นนโยบายยกเว้นวีซ่าซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางเข้าประเทศนั้น ๆ แค่แสดงพาสปอร์ตและเอกสารจำเป็นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและลงตราให้คุณเข้าประเทศได้ทันที bbag blog จะมาบอกว่า นอกจากจีนแล้ว ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า คนไทยถือพาสปอร์ตไทยสำหรับบุคคลธรรมดา (ปกสีน้ำตาล) ไปเที่ยวที่ประเทศไหนอีกบ้าง มาดูกัน! (อัปเดตล่าสุดปี 2567) หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นการอนุญาตของประเทศปลายทางซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทางที่สถานทูตของประเทศปลายทางที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือที่กระทรวงการต่างประเทศดังนี้ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ 02 643 5128 กรมยุโรป 02 643 5138 กรมเอเชียตะวันออก 02 643 5194 กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 02 643 5062 ข้อควรรู้ก่อนการเดินทาง ถึงแม้ว่าเราไม่ต้องขอวีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศเหล่านั่น แต่เราก็ควรเตรียมเอกสารติดตัวไปให้พร้อม เอกสารสำคัญ 5 อย่างนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง กรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางเรียกตรวจสอบ เราก็ต้องแสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเราเดินทางมาท่องเที่ยว โดยไม่มีเจตนาอื่นที่ผิดกฎหมาย บีแบค ขอแนะนำให้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ติดตัวไปด้วย หลักฐานการเรียน/การทำงาน : หนังสือรับรองการทำงาน บัตรพนักงาน หรือถ้าเป็น Freelance ก็แสดงผลงานของเรา หรือถ้ายังเป็นนักเรียน นักศึกษาก็แสดง สถานะการเรียน หรือใบรับรองการศึกษา สมุดบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว ตั๋วโดยสารเครื่องบินทั้งขาไป และขากลับ : แสดงให้เห็นว่าคุณมีแผนที่จะกลับประเทศหลังจากการเดินทางสิ้นสุด หลักฐานการจองที่พัก : ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือสถานที่พักชั่วคราว ให้แสดงหลักฐานการจองเพื่อยืนยันว่าคุณมีที่พักที่เหมาะสมระหว่างเดินทาง แผนการ ท่องเที่ยว : จัดทำรายละเอียดแผนการท่องเที่ยวในประเทศนั้น ๆ เพื่อชี้แจงว่าคุณมีกำหนดการที่ชัดเจน การมีเอกสารเหล่านี้จะช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือและแสดงให้เห็นว่าคุณมีแผนการที่ชัดเจนและไม่มีเจตนาที่จะอยู่ในประเทศเกินกำหนด
- 10 เส้นทางการบินเสี่ยง ‘ตกหลุมอากาศ’ มากที่สุดในโลกปี 2023
ภาวะที่เครื่องบินตก “หลุมอากาศ” โดยมากเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง, เกิดจากการบินเหนือพื้นที่บางแห่ง หรืออาจเกิดจากการที่เครื่องบินบินใกล้กับเครื่องบินลำอื่นมากเกินไป ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์สภาพอากาศ และวางแผนการบินล่วงหน้ามาแล้ว แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดหลุมอากาศแบบกะทันหัน ที่ไม่มีสัญญาณ คือท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใสดี แต่กลับมีหลุมอากาศที่คาดการณ์ไม่ได้ (Clear-air turbulence) หลุมอากาศลักษณะนี้นักบินไม่ทันตั้งตัวได้ ส่งผลกระทบต่อเครื่องบินโดยไม่คาดคิด คำถามสำคัญที่หลายคนอยากทราบคือ เส้นทางการบินใดบ้าง ที่มีโอกาสหรือความเสี่ยงเจอหลุมอากาศ คนที่จะตอบคำถามนี้ได้คือ “Turbli” (https://turbli.com) เว็บไซต์พยากรณ์การเกิดหลุมอากาศที่สร้างฐานข้อมูลจากข้อมูลพยากรณ์หลุมอากาศขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) และข้อมูลพยากรณ์เมฆพายุฝนฟ้าคะนองของกรมอุตุนิยมวิทยาสหราชอาณาจักร (UK Met Office) Turbli วิเคราะห์เส้นทางการบินทั้งหมด 150,000 เส้นทาง เฉพาะเส้นทางการบินที่ดำเนินการอยู่ ณ เดือน ธ.ค. 2023 เท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับ “การวัดความรุนแรงของหลุมอากาศ ณ จุดที่กำหนด” ซึ่งแบ่งเป็น 4 ระดับ ระดับเบา (0-20) ปานกลาง (20-40) รุนแรง (40-80) รุนแรงมาก (80-100) ที่น่าสนใจคือ จาก 10 อันดับแรก มีถึง 6 เส้นทางที่เกิดขึ้นในเอเชีย หรือถ้าเฉพาะเจาะจง คือเป็นเส้นทางภายในประเทศญี่ปุ่นและจีน ขณะที่เส้นทางยุโรป 2 เส้นทางก็มีจุดสำคัญที่เมืองมิลานของอิตาลี อิกนาชิโอ กัลเลโก มาร์กอส ผู้ก่อตั้ง Turbli อธิบายว่า มิลานมีหลุมอากาศมากเนื่องจากเส้นทางบินมักผ่านเหนือเทือกเขาแอนดีสหรือเทือกเขาแอลป์ ส่วนเส้นทางในญี่ปุ่นและจีนมีความผันผวนเนื่องจากมีกระแสเจ็ตสตรีมสูง (ลมแรงที่พัดมาจากตะวันตกไปตะวันออก) ดังนั้น ผู้โดยสารจะต้องมีสติและฟังคำแนะนำของพนักงานต้อนรับอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตุสัญญาณเข็มขัดนิรภัย หากมีสัญญาณให้รัดเข็มขัด ควรรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับ ตลอดการเดินทางอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เรารับมือกับการเผชิญความรุนแรงของการตกหลุมอากาศในทุกระดับ การปลดล๊อคเข็มขัดต้องรอสัญญาณเมื่อปลอดภัย และปลดล๊อคเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น ซึ่งโดยปกติทุกสายการบินจะแนะนำให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาเมื่ออยู่บนเก้าอี้ที่นั่งตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุที่ไม่คาดคิด
- Power Bank นำขึ้นเครื่องบินได้กี่ก้อน
Power Bank นำขึ้นเครื่องบินได้กี่ก้อน การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) มีกฎมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่ขึ้นเครื่องบินไว้ว่า ห้ามนำ Power Bank (แบตเตอรี่สำรอง) ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่อง แต่สามารถใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ โดยแบตเตอรี่สำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าหรือระบุไว้แต่เลือนราง ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ถ้าจะนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้ Power Bank ต้องมีตัวเลขระบุพลังงานไฟฟ้าชัดเจน Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 mAh (หรือน้อยกว่า 100 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่ระบุจำนวน บางสายการบินระบุว่า ไม่เกิน 20 ก้อน หรือ ตามความเหมาะสม อย่างไรแล้วให้ดูประกาศของแต่ละสายการบินเป็นหลัก Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 - 32,000 mAh (100- 160 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน Power Bank ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh (หรือมากกว่า 160 Wh) ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเค รื่อง ข้อควรสังเกตอีกอย่าง ที่ตัว Power Bank ควรมีตัวเลขระบุความจุอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนนำ Power Bank ออกเดินทาง โปรดสังเกตว่า Power Bank ของคุณมีตัวเลขบอกอย่างชัดเจนหรือไม่ หากไม่มีระบุ ไม่ชัด เลือนราง ไม่สามารถบ่งชี้ความจุไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่อาจพิจารณาไม่ให้นำขึ้นเครื่อง
- เครื่องบินตกหลุมอากาศคืออะไร เกิดได้อย่างไร
ในเหตุการณ์ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 ที่ลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ เหตุจากสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต ทำความรู้จักการตกหลุมอากาศ และระดับความแปรปรวนอากาศที่เกิดจากการเดินทางโดยเครื่องบินกัน เครื่องบินตกหลุมอากาศคืออะไร เกิดได้อย่างไร คนที่เดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย ๆ มักพบเหตุการณ์การกระตุกอย่างกะทันหันที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินเข้าสู่หลุมอากาศ ซึ่งสามารถทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่และเปลี่ยนระดับความสูงอย่างกะทันหัน หลุมอากาศส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเมฆที่มีลมพัดขึ้นและลง โดยส่วนใหญ่จะเป็นหลุมอากาศที่ค่อนข้างเบา แต่ในเมฆขนาดใหญ่ ที่ก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง การเคลื่อนไหวของอากาศที่วุ่นวายสามารถก่อให้เกิดหลุมอากาศระดับปานกลางหรือแม้แต่ขั้นรุนแรงได้ หลุมอากาศ เกิดจากอากาศส่วนบน และอากาศส่วนล่าง มีความเร็ว และความหนาแน่นในการทำให้เครื่องบินโดยสารเคลื่อนที่แตกต่างกัน เมื่อเครื่องบินเคลื่อนที่ผ่านอาจทำให้เกิดการกระทบ สั่นสะเทือน เหมือนตกหลุม จึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่อย เมื่อเครื่องบินโดยสาร บินเข้าไปใกล้รอยต่อระหว่างขอบนอกของกระแสลมกรด (Jet Stream) กับบริเวณสภาพอากาศปกติ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ‘การตกหลุมอากาศ’ อาจมีระดับความรุนแรงของความปั่นป่วน อยู่ในขั้นปานกลางถึงขั้นรุนแรง เครื่องบินตกหลุมอากาศ (Air Pocket) คือ หนึ่งในเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยผู้โดยสารจะรู้สึกเหมือนกับว่าเครื่องบินจะมีการส่าย สั่น และลดระดับไปจากระดับการบินเดิมเล็กน้อย ซึ่งหากอากาศมีการแปรปรวนอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เครื่องบินตกหลุมอากาศเกิดขึ้นตอนไหน 1. เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบิน บินเข้าไปใกล้กับรอยต่อระหว่างขอบนอกของกระแสลมกรด กับบริเวณสภาพอากาศปกติ เรียกว่า "บริเวณความปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส" (Clear air turbulence: CAT) 2. เกิดขึ้นเมื่อมีลมพัดปะทะภูเขา ทำให้อากาศอีกด้านปั่นป่วน เกิดเป็นหลุมอากาศ สาเหตุข้อนี้สามารถคาดการณ์ได้ และโดยส่วนใหญ่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักบินจะเตือนผู้โดยสารให้ทราบ 3. พายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดหลุมอากาศ ฝนฟ้าคะนอง สาเหตุข้อนี้สามารถตรวจพบได้ นักบินจึงหลีกเลี่ยงไม่บินไปใกล้ได้ ระดับความรุนแรง : ความแปรปรวนอากาศ ความรุนแรง ระดับเล็กน้อย (Light) : สภาพอากาศเกิดความแปรปรวนเล็กน้อย ผู้โดยสารจะต้องรัดเข็มขัด และอยู่กับที่ สิ่งของต่างๆ ในเครื่องบินต้องเก็บให้เรียบร้อย ความรุนแรงในระดับนี้ ผู้โดยสารอาจจะไม่รู้สึกถึงการสั่น ความรุนแรง ระดับปานกลาง (Moderate): สภาพอากาศเกิดความแปรปรวน โดยผู้โดยสารจะต้องรัดเข็มขัด และอยู่กับที่ ความรุนแรงนี้อาจทำให้ผู้โดยสารอาจถูกโยนตัวเป็นครั้งคราว แม้รัดเข็มขัด และสิ่งของต่างๆ ในเครื่องบินอาจเคลื่อนที่ได้ ความรุนแรง ระดับรุนแรง (Severe): สภาพปั่นป่วนทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ชั่วขณะหนึ่ง ผู้โดยสารจะถูกโยนตัวขึ้น - ลง อย่างรุนแรง ขณะรัดเข็มขัด พร้อมกับสิ่งของต่างๆ อาจถูกโยนขึ้น และลอยตัวในอากาศได้ ความรุนแรง ระดับรุนแรงมากที่สุด (Extreme) : หนึ่งในระดับที่เกิดขึ้นน้อยมาก ทำให้สภาพอากาศเกิดความแปรปรวน ทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้เลย เครื่องบินถูกโยนขึ้น - ลง อย่างรุนแรง มาก นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ และอาจสร้างความเสียหายต่อตัวเครื่องบินได้ วิธีป้องกันอันตรายขณะตกหลุมอากาศ “หลุมอากาศ” แม้จะไม่ได้อันตรายเพราะไม่ทำให้เครื่องบินตกก็จริง แต่บางครั้งการเกิดขึ้นของหลุมอากาศ ก็ไม่สามารถรับรู้ล่วงหน้าได้ ดังนั้น ผู้โดยสารและลูกเรือจะต้องนั่งประจำที่ รัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับ ตลอดการเดินทางอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เรารับมือกับการเผชิญความรุนแรงของการตกหลุมอากาศในทุกระดับ มีสติและฟังคำแนะนำของพนักงานต้อนรับอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยปกติแม้จะไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ แต่ทุกสายการบินจะแนะนำให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาเมื่ออยู่บนเก้าอี้ที่นั่งตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุที่ไม่คาดคิด
- แจก Travel Checklist ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ
สายเที่ยวพร้อมจะบินกันหรือยัง จะไป เที่ยวต่างประเทศตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะหลายๆ ประเทศ เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว เรามาดูกันดีกว่า ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมไปเที่ยวต่างประเทศกัน ไปดู checklist กันเลย! เช็คให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน ไม่ต้องวิ่งวุ่น ไม่ต้องซื้อใหม่ - เอกสารสำคัญต่างๆ - อุปกรณ์ไฟฟ้า - เสื้อ ผ้า หน้า ผม - อุปกรณ์ส่วนตัวในห้องน้ำ - พร๊อพ แซ่บๆพร้อมเก็บภาพ และทั้งหมดนี้คือรายการเตรียมของที่คาจิโอนี่ได้รวบรวมเป็น Checklist เดินทางต่างประเทศ ให้เพื่อน ๆ ใช้เตรียมตัวเดินทาง และจัดเก็บกระเป๋าเดินทางได้ง่ายขึ้น เป็นตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้ทริปนี้ไม่ลืมเอกสารและของใช้จำเป็น นอกจากนี้เพื่อน ๆ อาจเพิ่มกระเป๋าอุปกรณ์สร้างความบันเทิง กระเป๋าของกินติดตัว หรือกระเป๋าตามความชอบของเราได้อีก แค่เช็กให้ครบ การเดินทางของเพื่อน ๆ ก็จะราบรื่นไม่มีสะดุดแน่นอน สมาชิก bbag club สามารถดาวน์โหลดไฟล์ Checklist น่ารักๆจาก bbag ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้านล่างนะคะ
- ส่องโฉม ECHOLAC กระเป๋าเดินทางพรีเมียมจากญี่ปุ่น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หลงใหลแฟชั่น
‘ECHOLAC’ (แอ็ค-โค-แลค) เป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางคุณภาพระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีความเป็นมายาวนานเกือบ 50 ปี สำหรับชื่อ ECHOLAC ประกอบด้วยสองส่วน คือ ECHO และ LAC โดยคำว่า ‘ECHO’ เสมือนการสะท้อนของเสียง แสดงถึงความพร้อมในการรับฟังความต้องการของผู้บริโภคที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ส่วนคำว่า ‘LAC’ บอกเล่าอย่างตรงตัวถึงการเคลือบป้องกันกระเป๋าให้มีความแข็งแรงสวยงาม และให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “East meets West’ อันเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ เพราะเชื่อมั่นว่าเมื่อผู้คนจากแหล่งกำเนิดที่แตกต่างกันมาพบกันและเรียนรู้จากกันและกันพลังด้านบวกจะถูกปลดปล่อยออกมา โดยผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลงานจากทีมออกแบบมืออาชีพนานาชาติ ทั้งอิตาลี ญี่ปุ่น เดนมาร์ค และ เกาหลี ซึ่งในแต่ละคอลเลกชันจะมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ เน้นดีไซน์ทันสมัยตอบโจทย์นักเดินทาง โดยเฉพาะนักเดินทางเจนเนอเรชั่นใหม่ ประกอบกับคุณภาพสินค้าที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ทำให้กระเป๋าเดินทาง ‘แอ็คโคแลค’ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายฐานการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ มากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นของ ‘แอ็คโคแลค’ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1964 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดย Mr.Reizo Koseiki ได้คิดค้นเคสพลาสติก ABS เจ้าแรกของโลกขึ้นในปี 1965 สามารถพัฒนาออกมาเป็นกระเป๋าเดินทางรุ่น ‘เจมส์บอนด์ ABS’ ที่มีกระแสความนิยมอย่างสูงในปี 1999 จากนั้นแบรนด์ยังคงมีการพัฒนาและต่อยอดการออกแบบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้ ‘แอ็คโคแลค’ ก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์กระเป๋าระดับโลกที่ได้รับการยอมรับว่ามีความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก โดยสินค้าทุกชิ้นผ่านการทดสอบผลิตภัณฑ์ ISO 9001 ภายใต้การควบคุมระดับสากลโดยใช้การตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย 6 ขั้นตอน บวกกับระบบการจัดการคุณภาพที่เข้มงวดของ ‘แอ็คโคแลค’ ทำให้แน่ใจว่ากระเป๋าแต่ละใบที่ออกจากโรงงานมีคุณภาพและความทนทานสูง นอกจากนี้ยังมีความสวยงามสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้การออกเดินทางของนักเดินทางทั่วโลก มีประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ จากความโดดเด่นด้านการออกแบบและความสมดุล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำหรับคอลเลกชันที่วางจำหน่ายในประเทศไทยประกอบด้วย 3 คอลเลกชัน ได้แก่ CELESTRA เป็นคอลเลกชันที่ครองอันดับขายดีที่สุด ด้วยการออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน ฝากระเป๋าเปิดด้านหน้ามีขนาดใหญ่ หยิบของได้ง่าย พร้อมซิปขยายเพิ่มพื้นที่ภายในจุสัมภาระได้มากขึ้น ขนาด 20 ฝาเปิดด้านหน้ามีช่องใส่แล็ปท็อป พร้อมช่องเสียบสาย USB ต่อ Power Bank ซึ่งทีมออกแบบพัฒนาได้ต่อยอดกระเป๋าคอลเลกชันนี้ออกมาหลากหลายรุ่น ได้แก่ CELESTRA frame, CELESTRA Pilot, CELESTRA XA และ CELESTRA Trunk plus DYNASTY คอลเลกชันที่แสดงออกถึงสมดุลระหว่างความหรูหราสง่างาม มาพร้อมกับคุณภาพของวัสดุโพลีคาร์บอเนต 100% ของ Bayer ประเทศเยอรมนี ผิวกระเป๋าเคลือบพิเศษป้องกันรอยขีดข่วนได้มากกว่าผิวปกติทั่วไป SHOGUN คอลเลกชันที่สะท้อนคอนเซ็ปต์ ‘EAST MEET WEST’ อย่างแท้จริง ตัวกระเป๋าผลิตโดยใช้โพลีคาร์บอเนตจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวัสดุที่ดีที่สุดผ่านกระบวนการผลิตพิเศษทำให้มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรง สำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษไปกับ ECHOLAC สามารถเยี่ยมชมคอลเลกชันที่มีจัดจำหน่ายในประเทศไทยได้ที่ช็อป ECHOLAC บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ www.bbag.co.th
- Power Bank นำขึ้นเครื่องบินได้กี่ก้อน
Power Bank นำขึ้นเครื่องบินได้กี่ก้อน การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) มีกฎมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่ขึ้นเครื่องบินไว้ว่า ห้ามนำ Power Bank (แบตเตอรี่สำรอง) ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่อง แต่สามารถใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ โดยแบตเตอรี่สำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าหรือระบุไว้แต่เลือนราง ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ถ้าจะนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้ Power Bank ต้องมีตัวเลขระบุพลังงานไฟฟ้าชัดเจน Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 mAh (หรือน้อยกว่า 100 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่ระบุจำนวน บางสายการบินระบุว่า ไม่เกิน 20 ก้อน หรือ ตามความเหมาะสม อย่างไรแล้วให้ดูประกาศของแต่ละสายการบินเป็นหลัก Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 - 32,000 mAh (100- 160 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน Power Bank ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh (หรือมากกว่า 160 Wh) ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง ข้อควรสังเกตอีกอย่าง ที่ตัว Power Bank ควรมีตัวเลขระบุความจุอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนนำ Power Bank ออกเดินทาง โปรดสังเกตว่า Power Bank ของคุณมีตัวเลขบอกอย่างชัดเจนหรือไม่ หากไม่มีระบุ ไม่ชัด เลือนราง ไม่สามารถบ่งชี้ความจุไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่อาจพิจารณาไม่ให้นำขึ้นเครื่อง
- แจก Travel Checklist ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ
สายเที่ยวพร้อมจะบินกันหรือยัง จะไป เที่ยวต่างประเทศตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะหลายๆ ประเทศ เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว เรามาดูกันดีกว่า ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมไปเที่ยวต่างประเทศกัน ไปดู checklist กันเลย! เช็คให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน ไม่ต้องวิ่งวุ่น ไม่ต้องซื้อใหม่ - เอกสารสำคัญต่างๆ - อุปกรณ์ไฟฟ้า - เสื้อ ผ้า หน้า ผม - อุปกรณ์ส่วนตัวในห้องน้ำ - พร๊อพ แซ่บๆพร้อมเก็บภาพ และทั้งหมดนี้คือรายการเตรียมของที่คาจิโอนี่ได้รวบรวมเป็น Checklist เดินทางต่างประเทศ ให้เพื่อน ๆ ใช้เตรียมตัวเดินทาง และจัดเก็บกระเป๋าเดินทางได้ง่ายขึ้น เป็นตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้ทริปนี้ไม่ลืมเอกสารและของใช้จำเป็น นอกจากนี้เพื่อน ๆ อาจเพิ่มกระเป๋าอุปกรณ์สร้างความบันเทิง กระเป๋าของกินติดตัว หรือกระเป๋าตามความชอบของเราได้อีก แค่เช็กให้ครบ การเดินทางของเพื่อน ๆ ก็จะราบรื่นไม่มีสะดุดแน่นอน สมาชิก bbag club สามารถดาวน์โหลดไฟล์ Checklist น่ารักๆจาก bbag ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้านล่างนะคะ
- ข้อควรรู้!! ก่อนจัดกระเป๋าเดินทางถือขึ้นเครื่อง
ข้อที่ต้องรู้ก่อนเริ่มจัดกระเป๋า คำนวณน้ำหนักกระเป๋าแบบยังไม่ใส่อะไรเพิ่มก่อน เราควรต้องรู้ก่อนว่าเฉพาะตัวกระเป๋าเดินทางใบที่จะใช้งานนั้นมีน้ำหนักเท่าไร เพื่อคำนวณน้ำหนักที่เหลือสำหรับเสื้อผ้าข้าวของอื่นๆ ว่าจะสามารถใส่เพิ่มได้อีกเท่าไร แน่นอนว่ายิ่งกระเป๋าหนักจะยิ่งทำให้เราใส่ของได้น้อย ดังนั้นควรเลือกกระเป๋าทีมีคุณภาพที่ดีและมีน้ำหนักเบาจะดีที่สุด ข้อแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลยคือขนาดของกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ต่อให้น้ำหนักไม่เกินแต่กระเป๋าขนาดใหญ่เกินที่กำหนด ก็อาจจะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ และอาจจะต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระโหลดในตอนเช็กอิน ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าปกติ ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบขนาดกระเป๋าที่สายการบินอนุญาตก่อน ส่วนใหญ่หลายสายการบินก็กำหนดขนาดตามมาตรฐานมีขนาดใกล้เคียงกัน อาจมีบางสายการบินที่แตกต่าง จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบกับเว็บไซต์สายการบินที่ท่านทำการจองตั๋วไปหรือ กดอ่านได้จากบทความนี้ ถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้กี่ใบ สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ใบ และทั้งสองใบนั้นจะต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 7 กิโลกรัม ในบางสายการบิน เช่นสายการบินฟลูเซอร์วิสอาจกำหนดไว้มากสุดคือ 10 กิโลกรัม ซึ่งกระเป๋าใบที่สองที่เรานำขึ้นไปนั้นสามารถเป็นได้ทั้งกระเป๋าโน้ตบุ๊ค หรือกระเป๋าพกพาทั่วไป โดยต้องมีขนาดตามที่สายการบินกำหนดไว้ ก่อนการจัดกระเป๋า ควรเรียนรู้ข้อจำกัดเรื่องสิ่งต้องห้าม ที่ห้ามนําขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด 7 สิ่ง ถ้ามั่นใจว่ากระเป๋าเดินทางของเราไม่มีสิ่งของต้องห้าม และไม่มีอะไรที่ขัดต่อกฏของการ ขึ้นเครื่องบิน เพียงเท่านี้การเดินทางของเราก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดีแล้ว สนุกได้อย่างเต็มที่ และสบายใจตลอดทั้งทริป ของเหลวขึ้นเครื่องหมายถึงอะไรบ้าง การนำของเหลวขึ้นเครื่องบินก็คือ ของในกระเป๋าสัมภาระประเภทของเหลว, เจลหรือสเปรย์ ที่มีกำหนดข้อห้ามในแต่ละสายการบินกำหนดไว้ ว่าเราสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ซึ่งของเหลวขึ้นเครื่องมีอะไรบ้างดูตามนี้ได้เลย อาหารที่เป็นของเหลวอย่าง เครื่องดื่ม, น้ำซุปหรือซอสต่างๆ เครื่องสำอางประเภทครีม, โลชั่น, น้ำหอมและน้ำมัน สเปรย์, โฟมหรือสิ่งที่ต้องฉีดพ่น ของใช้ที่เป็นเจล เช่น ยาสีฟัน, ยาสระผมหรือเจลอาบน้ำ สิ่งที่มีส่วนผสมของแข็งกับของเหลว เช่น มาสคาราหรือลิปกลอส การนำของเหลวขึ้นเครื่องบินจะมีข้อกำหนดว่า จะต้องมีความจุของเหลวขึ้นเครื่อง 100 ml พอดีต่อชิ้น สามารถนำไปได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ 1,000 มล. และต้องใส่รวมไว้ในถุงพลาสติกซิปล็อกใส เพื่อให้ง่ายแก่การตรวจสอบ ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ ยารักษาโรคที่จำเป็นมีลักษณะเป็นของเหลว, อาหารสำหรับทารกในรูปแบบของเหลวหรือน้ำนมแม่ในถุงบรรจุน้ำนมในปริมาณที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้สามารถพกพาขึ้นเครื่องเกินปริมาณได้ แต่ของเหลวขึ้นเครื่องแบบข้อยกเว้นนี้ ก็ต้องผ่านการตรวจค้นและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รวมถึงยาต้องมีเอกสารกำกับชัดเจนก่อนด้วยถึงจะนำขึ้นเครื่องได้ ของเหลว เจล และสเปรย์ ที่ซื้อจากร้านค้าปลอดภาษี (Duty free shops) ที่ท่าอากาศยานต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสปิดผนึกปากถุง Security Tamper-Evident Bag ในสภาพที่ปิดสนิท ไม่มีร่องรอย การเปิดปากถุง สินค้าดังกล่าวต้องเป็นสินค้าปลอดภาษีจากประเทศต้นทางเท่านั้น และต้องมีหลักฐานการซื้อแนบไว้ ทั้งนี้ เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจค้น อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศจะมีกฎ การนำของเหลว ขึ้นเครื่องแตกต่างกัน ผู้โดยสารควรสอบถามจากสายการบินที่จะเดินทางให้ชัดเจนก่อนที่จะซื้อสินค้า Power Bank นำขึ้นเครื่องบินได้กี่ก้อน การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) มีกฎมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่ขึ้นเครื่องบินไว้ว่า ห้ามนำ Power Bank (แบตเตอรี่สำรอง) ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่อง แต่สามารถใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ โดยแบตเตอรี่สำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าหรือระบุไว้แต่เลือนราง ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ถ้าจะนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้ Power Bank ต้องมีตัวเลขระบุพลังงานไฟฟ้าชัดเจน Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 mAh (หรือน้อยกว่า 100 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่ระบุจำนวน บางสายการบินระบุว่า ไม่เกิน 20 ก้อน หรือ ตามความเหมาะสม อย่างไรแล้วให้ดูประกาศของแต่ละสายการบินเป็นหลัก Power Bank ความจุไฟฟ้า 20,000 - 32,000 mAh (100- 160 Wh) นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน Power Bank ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh (หรือมากกว่า 160 Wh) ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเค รื่อง ข้อควรสังเกตอีกอย่าง ที่ตัว Power Bank ควรมีตัวเลขระบุความจุอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนนำ Power Bank ออกเดินทาง โปรดสังเกตว่า Power Bank ของคุณมีตัวเลขบอกอย่างชัดเจนหรือไม่ หากไม่มีระบุ ไม่ชัด เลือนราง ไม่สามารถบ่งชี้ความจุไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่อาจพิจารณาไม่ให้นำขึ้นเครื่อง
- ระวังสิ้นสุดทางเลื่อน... ⚠️
เรื่องของความปลอดภัยในการใช้บันไดเลื่อน และทางเลื่อน ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกกังวลใจเวลาที่ต้องใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเดินทางโดยมีสัมภาระ Caggioni อยากให้ทุกคนใช้กระเป๋าเดินทางบนบันไดเลื่อน-ทางเลื่อนอย่างปลอดภัย 💗 1. ควรมีสติกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบันไดเลื่อน หรือทางเลื่อน ระหว่างการใช้งาน ขณะขึ้น-ลง ไม่ควรหยอกล้อ เล่นโทรศัพท์มือถือ มองจังหวะการเคลื่อนตัวของบันไดเลื่อน-ทางเลื่อน ก่อนการก้าวเท้า เลี่ยงอุบัติเหตุ 2. หากสัมภาระหนักจนเกินไปมองหาลิฟท์หรือบันไดเลื่อนสำหรับรถเข็น ปลอดภัยกว่า เพราะล้อรถเข็นอาจลื่นไถลหรือสะดุดกับพื้นต่างระดับของบันไดเลื่อน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้แต่หากเร่งรีบและกระเป๋าสามารถถือได้ การใช้บันไดแบบธรรมดาก็เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ 3 . ระวังจุดสิ้นสุดทางเลื่อน ควรก้าวเท้าก่อนถึงบันไดเลื่อนขั้นสุดท้าย รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังขณะก้าวเท้า เพื่อป้องกันการสะดุดล้มหรือชนผู้ที่อยู่ด้านหลัง ไม่วางเท้าบนเส้นสีเหลืองเพราะเป็นตำแหน่งของขั้นบันไดที่แยกออกจากกันจะทำให้เสียการทรงตัวและหกล้มได้ จุดเสี่ยงของการใช้งานบันไดเลื่อนหรือทางเลื่อน คือบริเวณจุดสิ้นสุดทางเลื่อนเป็นจุดอันตรายที่สามารถติดหรือถูกดูดได้ 4. การจัดวางกระเป๋าเดินทาง ไม่ควรวางไว้ด้านหน้า อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการสะดุดหรือหนีจากอุบัติเหตุ ควรวางด้านข้างหรือด้านหลัง 1 ขั้น และเมื่อถึงจุดสิ้นสุดทางเลื่อน ควร “ยก” กระเป๋าข้ามไม่ลากผ่านเพื่อป้องกันล้อกระเป๋าเข้าไปติดร่องของบันได 5. ตรวจสอบความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย พร้อมยกชายผ้าให้พ้นระดับพื้น ผูกเชือกรองเท้าให้แน่นเพื่อป้องกันมิให้ชายผ้าเข้าไปติดในช่องหรือซี่หวีของบันไดเลื่อน เพิ่มความระมัดระวังในการสวมรองเท้าส้นสูงขณะใช้งานบันไดเลื่อน-ทางเลื่อน กรณีรองเท้าเข้าไปติดในซี่ร่องบันไดเลื่อน ให้รีบถอดรองเท้าออกทันที 6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย เช่น การยืนพิงกับขอบด้านข้างของบันไดเลื่อน การนั่งบนราวจับ นั่งบนบันไดเลื่อน ยื่นศีรษะ/ลำตัวออกนอกราวจับ ยื่นเท้าชิดขอบข้างของบันไดเลื่อนมากเกินไป เพราะอาจได้รับอันตรายได้ และจับราวบันไดเลื่อนให้มั่น จะช่วยป้องกันการเสียการทรงตัว ปลอดภัยไว้ก่อนเพราะเรื่องอื่นๆ อาจอยู่เหนือการควบคุมของเรา













