✈️ อัปเดตด่วน! การบินไทยปรับนโยบายกระเป๋าครั้งใหญ่ เปลี่ยนจาก "น้ำหนัก" เป็น "จำนวนชิ้น" (เริ่มเที่ยวบิน มี.ค. 69)
- Golf Thananthorn
- 45 นาทีที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

สายเที่ยว สายบิน เตรียมตัวให้พร้อม! การบินไทย (Thai Airways) ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายการโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนจากระบบเดิมที่คิดตาม "น้ำหนักรวม" (Weight Concept) มาเป็นระบบ "จำนวนชิ้น" (Piece Concept) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับใคร เมื่อไหร่ และเราจะได้โควตากระเป๋ากี่ใบ? bbag สรุปประเด็นสำคัญมาให้แล้วครับ เช็คเลยก่อนจัดกระเป๋าทริปหน้า!
📅 เริ่มใช้เมื่อไหร่?
กฎใหม่นี้เริ่มบังคับใช้สำหรับบัตรโดยสารที่เข้าเงื่อนไขดังนี้ครับ:
วันที่จอง/ออกตั๋ว : ตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
วันที่เดินทาง : ตั้งแต่ 02 มีนาคม 2569 เป็นต้นไป
ใครจองตั๋วช่วงนี้เพื่อบินปีหน้า ต้องดูตารางใหม่นี้เลย!
🌏 1. เส้นทางระหว่างประเทศ (International)

🇹🇭 2. เส้นทางภายในประเทศ (Domestic)
สำหรับบินในประเทศ จำง่ายมากครับ "ได้คนละ 1 ชิ้น" ทุกชั้นโดยสาร แตกต่างกันที่น้ำหนักครับ
Royal Silk Class: 1 ชิ้น (32 กก.)
Economy Class (ทุกประเภท): 1 ชิ้น (23 กก.)
⚠️ กฎเหล็กเรื่อง "ขนาด" ที่ห้ามลืม!
อันนี้สำคัญมากสำหรับลูกค้า bbag! ในระบบ Piece Concept นอกจากน้ำหนักแล้ว "ขนาดของกระเป๋า" ก็เคร่งครัดขึ้น
👉 กระเป๋าทุกชิ้น ต้องมีขนาดรวม (กว้าง + ยาว + สูง) ไม่เกิน 158 ซม. (หรือ 62 นิ้ว)
สรุปจาก bbag :
การเปลี่ยนมาใช้ระบบ "จำนวนชิ้น" หมายความว่าเราไม่สามารถรวมน้ำหนักหลายๆ ใบเข้าด้วยกันได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าโควตาบอกว่า 1 ชิ้น 23 กก. แม้คุณจะมีกระเป๋าเล็กๆ 2 ใบที่น้ำหนักรวมกันไม่ถึง 23 กก. ก็ไม่สามารถโหลดฟรีได้ (ต้องจ่ายค่าน้ำหนักเกินใบที่ 2)
Tips: การมีกระเป๋าเดินทางที่ "น้ำหนักเบา" แต่ "จุของได้เยอะ" และมี "ขนาดได้มาตรฐาน (ไม่เกิน 158 ซม.)" จึงสำคัญมากๆ ในยุคนี้ เพื่อให้คุณใช้โควตาน้ำหนัก 23 หรือ 32 กก. ต่อใบได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
🎒 มองหากระเป๋าเดินทางคู่ใจใบใหม่ที่ตอบโจทย์กฎการบินไทย แวะมาเลือกช้อปที่ bbag.co.th ได้เลยครับ เราคัดมาให้แล้วว่าเป๊ะทุกใบ!
